เป็นคันเบ็ดที่ได้รับความนิยมจากนักตกปลามากอีกชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะนักตกปลาที่ผ่านหรือมีประสบการณ์ในการใช้อุปกรณ์ตกปลาประเภทสปินนิ่งมาแล้ว อาจจะด้วยเหตุผลว่าเบื่อชุดสปินนิ่ง หรือต้องการยกระดับของตัวเอง (
อาจจะคิดว่าดูแปลกกว่าผู้ตกปลารายอื่นทั่วไป) รูปแบบของคันเบ็ดมีลักษณะคล้าย หรือใกล้เคียงกับคันโบ้ท (Boat rod) มากที่สุด โครงสร้างของตัวคันเบ็ดที่ประกอบด้วยไกด์นั้นมีลักษณะเหมือนกับสปินนิ่งแต่ตัวไกด์ของคัน
เบทคาสติ้ง จะมีขนาดวงเล็ก และฐานเตี้ยกว่าไกด์ของสปินนิ่ง แต่ปริมาณตัวไกด์มีมากกว่าของคันสปินนิ่ง 1-2 ตัว (ในความยาวเท่ากัน) เนื่องจากสายเบ็ดจะวิ่งอยู่ด้านบนของคัน (ตรงกันข้ามกับคันสปินนิ่ง) จึงจำเป็นต้องติดตั้ง
ไกด์มากกว่าเพื่อป้องกันไม่ให้สายเบ็ดตกลงมาทาบกับตัวคันเบ็ด ขนาดของไกด์ที่ไม่จำเป็นต้องใหญ่เพราะ สาวยจะวิ่งออกจากรอกเบทคาสติ้งแนวตรง ไม่ควงเป็นวง คันเบทคาสติ้งที่ยาวกว่า 7 ฟุต ขึ้นไปจะไม่นิยมออกแบบให้ที่
ยึดขารอกโค้งตัวลงไปเหมือนคันสั้น รูปแบบของคันจึงมองดูคล้ายคันสปินนิ่งมากกว่า ด้ามเบทคาสติ้งโดยทั่วๆ ไป จะมีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน คือ
- ด้ามออฟเซ็ท (Off set ) มีลักษณะคล้ายด้ามมีด หรือ ด้ามปืน งอนลงเล็กน้อย และสั้น
- ด้ามตรง (Straight) มีลักษณะเหมือนด้ามสปินนิ่ง แต่จะมีส่วนยื่นออกมาคล้ายไกปืน จุดประสงค์เพื่อเอาไว้ใช้นิ้วก้อยยึด ทำให้เกิดความกระชับขณะเหวี่ยงเหยื่อ
- ด้ามดีเคอร์ฟ (Decurved) เป็นด้ามที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้กับรอกสปินคาสติ้ง มีลักษณะคล้ายด้ามออกเซ็ท แต่ด้ามประเภทนี้ต้องใช้กับรอกขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้สายพาดโดยส่วนหน้าของด้ามจัด หรือที่เรียกว่าไฟร์กริพ (
Fore grip)
สรุปข้อแตกต่างระหว่างคันเบทคาสติ้ง กับคันสปินนิ่ง
1. คันสปินนิ่งรอกและสายเบ็ดอยู่ด้านล่าง ส่วนคันเบทคาสติ้งรอกและสายเบ็ดอยู่ด้านบน
2.ขนาดไกด์ของคันเบทคาสติ้งเล็กกว่า แต่จำนวนมากกว่า
3.รูปทรงของด้ามจับไม่เหมือนกัน และอาจมีไกด์สำหรับนิ้วเกี่ยว