คันเบ็ด คือ  อุปกรณ์ตกปลาที่ทำงานเสมือนคานดีดีคานงัด เป็นตัวที่ใช้ในการตวัดเบ็ด (set hook) ใช้เป็นตัวส่งเหยื่อให้ไปสู่จุดหมายตามต้องการ และเป็นตัวยึดรอกในการเก็บสายเบ็ด มนุษย์รู้จักใช้คันเบ็ดมานานแล้ว ในสมัย
โบราณคงจะตัดกิ่งไม้มาทำเป็นคันเบ็ด การพัฒนาคันเบ็ดก็มีเรื่อยมา ส่วนใหญ่เน้นความสวยงามมากกว่าการใช้งาน การพัฒนาเริ่มเด่นชัด เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง คืนในปี ค.ศ. 1982 กลุ่มนักตกปลาแบส (bass) ได้พัฒนาคันเบ็ด
ให้เหมาะสมกับการใช้งานตามประเภทต่างๆ คือเน้นประโยชน์ในการใช้สอยมากขึ้น ความสวยงามเป็นปัจจัยรอง

ในปัจจุบันคันเบ็ดที่สร้างมาเฉพาะกับการใช้งาน เช่น พวกคันเบทคาสติ้งเกือบทั้งหมด ยาวประมาณ 5 ฟุตครึ่ง หรือมากกว่า และมีด้ามตรงมากกว่าแบบเดิมที่เป็นแบบด้ามปืน แต่ยังคงรักษาไกเกี่ยว (trigger) ไว้ การทำด้ามตรง
ทำให้การใช้งานใช้ได้ง่ายขึ้น บังคับทิศทางการเหวี่ยงเหยื่อง่ายกว่าแบบด้ามปืน นักตกปลายชายฝั่งจะใช้คันเบ็ดที่มีน้ำหนักเบา ด้ามตรง ด้ามเป็นแบบจับสองมือ เพื่อการเหวี่ยงเยื่อได้ไกล เป็นพวกคันเซิร์ฟ (surf rod) แต่บางที
เรียกว่าคันป๊อปปิ้ง (popping) เพราะใช้ไม้ก็อกขนาดใหญ่ (popping cork) เป็นวัสดุที่ใช้ทำด้ามคันเบ็ดนั่นเอง

จากบันทึกการสร้างคันเบ็ดในอเมริกา ใน ค.ศ. 1880 คันเบ็ดคันแรกทำด้วยไม้ยาว 8 ฟุต 3 นิ้ว สร้างโดย Mr.Jame Henshall เป็นคันแบบเบทคาสติ้ง (bait casting) ออกแบบมาใช้กับเหยื่อปลาเป็น (live bait) ซึ่งเป็น
ด้ามต้นแบบของคันประเภทนี้ในปัจจุบัน

ปี ค.ศ. 1885 Mr. Jame Clark ได้สร้างคัน 6 ฟุต ทำจากไม้ไผ่เป็นคันที่สั้นกว่าคันของ Henshall แต่คันของ Clark มีด้ามตรง ยาว ใช้จับได้ทั้งสองมือ (two - handed handle) มีไก (trigger) สำหรับเกี่ยวนิ้ว

คันเบ็ดรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1977 เมื่อ Dave Gliebe ใช้เทคนิค Flipping คือคันที่สามารถหกตัวคันลงในด้ามได้ส่วนหนึ่ง คันของ Gliebe ถูกใช้กันอย่างกว้างขวางมากในเวลาต่อมา บริษัทที่ผลิตคัน Flipping เป็น
บริษัทแรกคือ บริษัทเฟนวิค (fenwick)

พื้นฐานของคันเบ็ดจะถูกออกแบบให้ช่วยในการเหวี่ยงเหยื่อการตวัดคัน และสู้กับปลา เป็นสำคัญ คันเบ็ดคันเดียวไม่สามารถใช้กับการตกปลาทุกประเภท และทุกชนิดของงานได้ ฉะนั้นคันเบ็ดจึงมีความแตกต่างหลากหลายให้เลือกใช้